นายกร เธียรนุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาวา เซอร์วิส แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด และผู้ร่วมก่อตั้ง MyWaWa เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดค้าส่งไทยมีมูลค่ากว่า 5.8 ล้านล้านบาท 30% เป็นการส่งออก และ 70% เป็นภาคอุตสาหกรรม ซึ่งในตลาดนี้มีผู้ผลิตและผู้ค้าส่ง กว่า 500,000 ราย และเป็นผู้ค้ารายย่อย SMEs อีกกว่า 3 ล้านราย ส่งผลให้บริษัทได้พัฒนาแพลตฟอร์มชื่อ www.mywawa.me ขึ้นมา เพื่อเป็น e-Marketplace สำหรับ ธุรกิจแบบ B2B ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นศูนย์กลางการซื้อขายทางธุรกิจทั้งรูปแบบค้าส่งและค้าปลีก รวบรวมโรงงานผู้ผลิต ผู้จำหน่ายและซัพพลายเออร์จากทุกอุตสาหกรรม รองรับทุกฟีเจอร์ตั้งแต่การขาย วางบิล ชำระเงิน รวมถึงระบบขนส่งในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งจะช่วยยกระดับผู้ประกอบการไทยก้าวสู่โลกการค้ายุคดิจิทัลในปัจจุบันคำพูดจาก ทดลองเล่นสล็อต pg
ทั้งนี้ www.mywawa.me ได้เริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ ต.ค.64 ที่ผ่านมา ครอบคลุม 7 อุตสาหกรรมเช่น การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์, วัสดุก่อสร้าง, เครื่องใช้สำนักงาน, แฟชั่นบิวตี้, ชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ และอาหารเครื่องดื่ม เป็นต้น โดยปัจจุบันมีผู้ขายและซัพพลายเออร์ ในระบบมากกว่า 100 ราย มีสินค้ากว่า 3,000 รายการ จากจำนวนผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อมากกว่า 2,000 ราย และมียอดซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มแล้ว 1,500 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท และมีผู้ขาย 1,000 ราย และผู้ซื้อ 20,000 ราย
“เป้าหมายใน 3-5 ปีจากนี้ ต้องการก้าวสู่ตลาดอาเซียน จากปัจจุบันเป็นการซื้อขายเฉพาะผู้ซื้อและผู้ขายภายในประเทศ โดยยังต้องลงทุนด้านระบบอีกเป็นหลักร้อยล้านบาทขึ้นไป หรือ 3-5 ปีจากนี้ mywawa.me จะเข้าถึงตลาดโฮลเซลได้ราว 10-15% และครอบคลุม 45 อุตสาหกรรมทั้งหมดในไทย”
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรม B2B ของประเทศไทยยังมีอีกหลายภาคส่วนที่ยังไม่ได้เป็นรูปแบบดิจิทัลบริษัทจึงอยากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนี้ให้แข็งแรงและสามารถเข้าถึงผู้ผลิต ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และ SMEs ทั่วประเทศ ที่สำคัญบริษัทมีเป้าหมายในอนาคตว่า จะสามารถสร้าง MyWaWa ให้เป็น Trade and Investment Gateway to Southeast Asia จากการที่ไทยอยู่ในตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เป็นฐานการผลิตสำคัญของโลก เนื่องจากมีการย้ายฐานจากประเทศจีนมามากขึ้นเป็นภูมิภาคที่กำลังเติบโต